บาคาร่าไพ่คู่ คืออะไร มีวิธีการเล่นแบบไหน เล่นยังไงให้ได้เงิน

บาคาร่า เป็นเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักเสี่ยงโชคทั่วโลก โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่เอื้อให้สามารถทำกำไรผ่านคาสิโน ออนไลน์ ได้อย่างสะดวกสบาย เกมบาคาร่า และวิธีเล่น บาคาร่าไพ่คู่ ชนิดนี้จึงกลายเป็นขวัญใจของผู้คนทุกเพศทุกวัยมากยิ่งขึ้นไปอีก

จุดเด่นของ บาคาร่า คือเป็นเกมไพ่ที่มีกฎกติกาการเล่นเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ใช้เวลาในการทำความเข้าใจและศึกษาแค่ไม่กี่นาที ก็สามารถที่จะทำกำไรได้ไม่ต่างจากมืออาชีพ ที่สำคัญคือเกมไพ่ชนิดนี้มีอัตราการเริ่มเกมและจบเกมที่รวดเร็วมาก คุณจึงสามารถคาดหวังถึงผลตอบแทนก้อนโตได้ในเวลาแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น

กฎกติกาการเล่นบาคาร่าและ บาคาร่าไพ่คู่

วิธีการเล่นบาคาร่ากับ บาคาร่าไพ่คู่ จะคล้ายคลึงกับ ป๊อกเด้ง ที่พี่น้องนักเสี่ยงโชคชาวไทยน่าจะคุ้นเคยกันดี แต่จะต่างกันในส่วนของรูปแบบวางเดิมพัน ที่คุณไม่จำเป็นต้องถือไพ่ไปเผชิญหน้ากับเจ้ามือด้วยตัวเอง ทว่าสามารถที่จะเลือกวางเดิมพันได้อย่างอิสระตามต้องการ

โดยก่อนเริ่มเกม ดีลเลอร์จะเปิดโอกาสให้คุณได้วางเดิมพันจนพอใจเสียก่อน จากนั้นจะเริ่มแจกไพ่เป็น 2 กอง คือ Banker กับ Player กองละ 1 ใบ จนครบ 2 ใบ พร้อมโอกาสในการจั่วไพ่ใบที่ 3 เพิ่มเติม ตามกฎการจั่วไพ่ที่กำหนดเอาไว้

ที่เหลือก็แค่วัดผลลัพธ์ของ Banker กับ Player ว่ากองใดมีแต้มใกล้เคียงหรือเท่ากับ 9 มากที่สุด ก็จะเป็นฝ่ายชนะไป โดยจะนับแต้มตามหน้าไพ่ 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ส่วน 10, J, Q, K จะมีแต้มเท่ากับ 0 และ A จะถูกนับเป็น 1 แต้ม

ส่วนกฎการจั่วไพ่ใบที่ 3 ในเกมบาคาร่า จะแยกออกเป็น 2 แบบ คือ Banker กับ Player โดย Player จะได้จั่วไพ่ต่อเมื่อมีแต้มเท่ากับหรือน้อยกว่า 5 ซึ่งถือเป็นกฎเพียงข้อเดียวของฝั่ง Player ผิดกับ Banker ที่มีกฎแยกย่อยออกไปมากกว่า ขออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ เป็นข้อดังต่อไปนี้

1.Banker (เจ้ามือ) จั่วไพ่ใบที่ 3 เมื่อมีแต้มเท่ากับ 3 และ Player ได้ไพ่ใบที่ 3 เท่ากับ 8

2. Banker (เจ้ามือ) จั่วไพ่ใบที่ 3 เมื่อมีแต้มเท่ากับ 4 และ Player ได้ไพ่ใบที่ 3 เท่ากับ 2, 3, 4, 5, 6 และ 7

3. Banker (เจ้ามือ) จั่วไพ่ใบที่ 3 เมื่อมีแต้มเท่ากับ 5 และ Player ได้ไพ่ใบที่ 3 เท่ากับ 4, 5, 6, 7

4. Banker (เจ้ามือ) จั่วไพ่ใบที่ 3 เมื่อมีแต้มเท่ากับ 6 และ Player (ผู้เล่น) ได้ไพ่ใบที่ 3 เท่ากับ 6 หรือ 7

5. Banker (เจ้ามือ) จั่วไพ่ใบที่ 3 เมื่อมีแต้มที่เท่ากับหรือน้อยกว่าสอง

อัตราการจ่ายเงินในเกมบาคาร่า

อย่างที่เราบอกไปว่าแม้ บาคาร่า จะมีกฎกติกาการเล่นเรียบง่ายคล้ายคลึงกับ ป๊อกเด้ง แต่สิ่งที่เอื้อให้พวกมันเป็นเกมที่พิเศษกว่าและได้รับความนิยมมากกว่า หนีไม่พ้นรูปแบบการวางเดิมพันที่หลากหลาย แถมไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเล่นไพ่ Banker หรือ Player เท่านั้น ทว่าสามารถเดิมพันในรูปแบบอื่นได้ด้วย ดังนี้

• ลงเดิมพัน Banker ชนะ มีอัตราจ่าย 0.95 เท่า

• ลงเดิมพัน Player ชนะ มีอัตราจ่าย 1 เท่า

• ลงเดิมพัน Tie ( เสมอกัน ) มีอัตราในการจ่ายอยู่ที่ 8 เท่า

• ลงเดิมพัน Banker ไพ่คู่ มีอัตราจ่ายที่เท่ากับ 11 เท่า

• ลงเดิมพัน Player ไพ่คู่ มีอัตราจ่าย 11 เท่า

ทำไมการทำกำไรจาก บาคาร่าไพ่คู่ จึงน่าสนใจ

จะเห็นได้ว่าการทำกำไรจากบาคาร่าไพ่คู่ มีอัตราการจ่ายเงินมากถึง 11 เท่า อันหมายความว่าหากคุณมีกลยุทธ์การทำกำไรที่ดีมากพอ ก็สามารถที่จะกอบโกยผลตอบแทนเข้ากระเป๋าได้ทุกวัน แถมยังใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น แม้อาจต้องทำใจยอมรับแลกกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นมาสักหน่อยก็ตามแล้ว บาคาร่าไพ่คู่ คืออะไร?

วิธีการทำกำไรจากบาคาร่าไพ่คู่ ไม่มีอะไรยุ่งยากวุ่นวาย เพียงแค่คุณวางเดิมพันว่า Banker หรือ Player จะได้ไพ่คู่ จากนั้นลุ้นผลลัพธ์ที่ออกมา โดยต้องให้ฝั่งที่คุณวางเดิมพัน ไม่ว่าจะเป็น Banker Pair หรือ Player Pair ออกมามีแต้มเหมือนกันตั้งแต่ 2 ใบแรก ง่าย ๆ แค่นั้นเอง

แน่นอนว่ามันอาจมองดูเป็นวิธีที่ยุ่งยาก ซึ่งเป็นไปตามอัตราต่อรองของบาคาร่าไพ่คู่ ที่จะมอบผลตอบแทนให้สูงที่สุดในเกม กระนั้นหากคุณได้ศึกษากลยุทธ์ที่เรากำลังจะบอกต่อไปนี้ รับประกันได้เลยว่าคุณจะต้องรู้สึกทึ่งกับโอกาสในการคว้าผลตอบแทน 11 เท่า ที่ไม่ยากอย่างที่คิด

กลยุทธ์การทำกำไรจากไพ่คู่

ในโลกแห่งการวางเดิมพัน มีผู้คิดค้นกลยุทธ์มากมายเอาไว้ให้คุณได้เลือกสรรไปทำกำไร หรือแม้แต่การประยุกต์ต่อยอดเป็นสไตล์การเล่นของตัวเอง แต่สำหรับกลยุทธ์ที่เราแนะนำให้คุณเลือกใช้ในเกมไพ่อย่างบาคาร่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการกอบโกยผลตอบแทน 11 เท่า ของบาคาร่าไพ่คู่ หนีไม่พ้น เทคนิคการนับไพ่ กับ เทคนิคการหาไพ่คู่ ที่จะพาคุณไปสัมผัสกันดังต่อไปนี้

เทคนิคการนับไพ่

เทคนิคนับไพ่ ถือเป็นกลยุทธ์เพิ่มโอกาสทำกำไรระยะยาวในเกมไพ่บาคาร่า ซึ่งนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีเทคนิคการนับไพ่มากมายที่ถูกคิดค้นขึ้น แต่สำหรับบรรดาผู้เล่นมือใหม่ทุกคน เราจะพาไปเรียนรู้ The Hi-Lo System ที่มีวิธีการฝึกฝนและใช้งานแสนง่ายดาย

โดย The Hi-Lo System เป็นเทคนิคการนับไพ่ที่ ฮาร์วี่ย์ ดั๊บเนอร์ คิดค้นขึ้นเมื่อปี 1963 พัฒนาต่อยอดมาจาก Thorp’s Ten-Count System ใช้วิธีแทนค่าไพ่แต้ม 2-6 ด้วย +1 (เรียกว่า Low), แทนค่าไพ่ 10, J, Q, K, A ด้วย -1 (เรียกว่า High) และแทนค่าไพ่แต้ม 7, 8, 9 ด้วย 0

วิธีคิดสูตรนับไพ่ตามแบบฉบับ The Hi-Lo System จะใช้การคำนวณผลลัพธ์ตามปกติ หากผลรวมออกมาเป็น +1 แสดงว่ายังมีไพ่แต้มต่ำในกองเยอะ กลับกันหากเป็น -1 แสดงว่ามีไพ่แต้มสูงในกองเยอะ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ทำกำไรจากบาคาร่าไพ่คู่ได้ไม่ยาก

เทคนิคการหาไพ่คู่

นอกจากเทคนิคการนับไพ่ที่เปรียบเสมือน ศาสตร์ตัวเลข ชั้นสูงแล้ว คุณยังสามารถที่จะใช้เทคนิคการหาบาคาร่าไพ่คู่ได้เพียงอาศัยแค่การสังเกตเท่านั้น นั่นก็คือการเลือกห้องทำกำไร สมมติคุณเล่น Baccarat UFABET ก็ควรที่จะวิเคราะห์ให้ดีว่าห้องไหนที่มีสถิติการออกไพ่คู่บ่อยหรือมีโอกาสออกบ่อย

ยกตัวอย่างเช่นให้คุณล็อกอินเข้าไปที่ ยูฟ่าเบท จากนั้นเลือกห้องบาคาร่า แล้วสังเกตการวางเดิมพันสักระยะหนึ่ง เมื่อเห็นว่ามีการออกไพ่คู่ตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป ให้คาดเดาไว้เลยว่า Baccarat UFA ห้องนี้ จะมีการออกไพ่คู่บ่อยครั้ง แต่อาจต้องใช้เวลาอดทนรอสักหน่อย

ขณะเดียวกันก็ให้คุณจดจำเอาไว้เลยว่าบาคาร่าไพ่คู่มักจะออกมาหลังแต้มเสมอ หรือ Tie เสียเป็นส่วนใหญ่ อันหมายความว่าเมื่อไรที่มี Tie เกิดขึ้น ตาต่อไปให้คุณวางเดิมพันไพ่คู่ของทั้ง Banker และ Player ได้เลย เพราะมีโอกาสสูงมากที่จะกวาดกำไรก้อนโตเข้ากระเป๋า

จะเล่น บาคาร่าไพ่คู่ ได้ที่ไหน

ปัจจุบันคุณสามารถที่จะมองหาช่องทางทำกำไรจากบาคาร่าออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบาย แต่หากคุณกำลังมองหาช่องทางที่จะได้รับอัตราจ่าย บาคาร่าไพ่คู่ ที่ดีที่สุด และปราศจากการโกงการหลอกลวงแน่นอน 100% เราแนะนำให้คุณเลือกวางเดิมพันกับ ยูฟ่าเบท เว็บเดิมพันกีฬาและคาสิโนออนไลน์หมายเลข 1 ของไทย

โดยวิธีการสมัครสมาชิก UFABET ก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก เพียงติดต่อหาฝ่ายบริการลูกค้าทุกช่องทางที่คุณสะดวก จากนั้นแจ้งว่าต้องการเปิดยูสเซอร์ แล้วทำตามขั้นตอนไม่เกิน 5 นาที เพียงเท่านี้ก็สามารถรอรับ Username และ Password เอาไปทำกำไรได้ทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง